ป้องกันและควบคุมโรคแอนแทรกซ์

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก และการชำแหละหรือสัมผัสสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ แกะ หากพบสัตว์ดังกล่าว แสดงอาการป่วยหรือตายผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ พร้อมเน้นย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากกรณีดังกล่าวอยู่ในการควบคุม ป้องกัน และสอบสวนโรคโดยเจ้าหน้าที่ด้านระบาดวิทยา

       วันนี้ (1 พฤษภาคม 2568) นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง กรณีพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) 1 ราย ในจังหวัดมุกดาหาร ว่า ผู้ป่วยเป็นเพศชาย อายุ 53 ปี โรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน อาชีพรับจ้างก่อสร้าง เริ่มมีตุ่มแผลขึ้นบริเวณมือข้างขวาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 27 เมษายน 2568 ด้วยอาการแผลที่มือเริ่มมีสีดำชัดเจนขึ้น ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ข้างขวาโต และมีอาการหน้ามืด ชักเกร็ง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเข้ารับการรักษา แพทย์สงสัยโรคแอนแทรกซ์ จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันบำราศนราดูร ผลพบเชื้อ Bacillus anthracis จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นคาดว่า ปัจจัยเสี่ยงมาจากการชําแหละโคในงานบุญผ้าป่าและมีการนำเนื้อโคที่ชําแหละไปแจกจ่ายให้รับประทานกันภายในหมู่บ้าน ขณะนี้ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ร่วมกับทีมสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และทีมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเบื้องต้นพบผู้สัมผัสจำนวน 247 คน แบ่งเป็นผู้ที่ชำแหละโค 28 คน และผู้ที่บริโภคเนื้อโคดิบ 219 คน ได้ให้ยาในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ระหว่างดำเนินมาตรการป้องกันการควบคุมโรคในพื้นที่

       โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์สู่คนที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสปอร์ของเชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสามารถก่อให้เกิดโรคได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แหล่งรังโรคหลักของเชื้อ คือ สัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ และแกะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรง การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก หรือการสัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีเชื้อ หลังได้รับเชื้อประมาณ 1 - 5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง มีแผลคล้ายบุหรี่จี้ หายใจขัด หายใจลำบาก หากมีอาการรุนแรงมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 80 โดยข้อมูลจากกองระบาดวิทยา พบผู้ป่วยในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2543 รวม 15 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต (พิจิตร 14 ราย และพิษณุโลก 1 ราย) ซึ่งการระบาดที่พิจิตรมีความเป็นไปได้ว่าสัตว์ได้รับเชื้อก่อนที่จะเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่จังหวัด ส่วนในจังหวัดพิษณุโลกพบว่า ผู้ชำแหละมีบาดแผล โดยนำซากแพะเข้ามาชำแหละรับประทานเอง ล่าสุดในปี พ.ศ. 2560 พบผู้ป่วย 2 ราย ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งคู่ได้ชำแหละซากแพะที่นำมาจากประเทศเมียนมาโดยถลกหนังแพะด้วยมือเปล่า ส่วนสถานการณ์ในประเทศที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทย เมื่อปี พ.ศ. 2567 ประเทศลาวพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รวม 129 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ประเทศเวียดนาม พบการระบาดโรคแอนแทรกซ์ จำนวน 3 เหตุการณ์ พบผู้ป่วยรวม 13 ราย และผู้สัมผัสอีก 132 ราย จากการรับประทานเนื้อโคและกระบือเช่นกัน

       สำหรับวิธีการป้องกันโรคแอนแทรกซ์ นายแพทย์ภาณุมาศ ให้คำแนะนำ ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ 2. ล้างมือ ชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ 3. เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองอาหารปลอดภัย 4. หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที 5. หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ภาวะคลอดก่อนกำหนด

แนวคิดหลักภายใต้แคมเปญ ตอนที่ 1 อันตรายของการคลอดก่อนกำหนด

เมื่อพบภาวะแทรกซ้อนในทารกเกิดก่อนกำหนด จะส่งผลให้ทารกรายนั้นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องมากกว่าทารกครบกำหนด เช่น ทารกมีโรคปอดเรื้อรังบางรายต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจนตลอดเวลา อย่างน้อย 6 เดือน ถึง 2 ปี โรคจอตาเจริญเติบโตผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด ทำให้เสี่ยงต่อการมีสายตาเลือนลางหรือตาบอดหากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ทารกมีภาวะเลือดออกในโพรงสมองอาจมีผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโต หากเป็นโรคลำไส้เน่าเปื่อยและได้รับการผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนตายออกไป อาจไม่สามารถกินนมได้ช่วงเวลาหนึ่ง คุณแม่กลุ่มนี้จึงมักมีความเครียดสูง กลัวลูกเสียชีวิต ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งหากเครียดมากก็อาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด รับประทานอาหารได้น้อยลง ไม่ดูแลตัวเอง นอกจากนี้การที่ทารกมีอายุครรภ์น้อนมากๆ คุณแม่ก็อาจไม่สามารถให้นมบุตรได้เอง ส่งผลให้การสร้างน้ำนมลดลง ต้องเปลี่นมาใช้นมผสมทดแทน เป็นต้น

แนวคิดหลักภายใต้แคมเปญ ตอนที่ 2 ฝากครรภ์เร็วปลอดภัยกว่า

การที่หญิงตั้งครรภ์เข้ามาฝากครรภ์ภายใน 12 สัปดาห์แรก จะนำไปสู่การยืนยันอายุครรภ์ที่ถูกต้อง ได้รับการประเมินความเสี่ยงจากแพทย์เพื่อรักษาและป้องกัน หากมาช้ากว่าอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ อาจทำให้การคำนวณอายุครรภ์ผิดพลาด ไม่สามารถกำหนดอายุครรภ์เมื่อครบ 37 สัปดาห์ ได้ นอกจากนั้นโอกาสที่จะได้รับการดูแลรักษาโรคหรือภาวะแทรกซ้อนอาจล่าช้าออกไป เพราะผู้หญิงหลายคนอาจมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ เมื่อตั้งครรภ์อาจมีผลต่อสุขภาพของตนเอง เช่น ฟันผุ โลหิตจาง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือ ประวัติการผ่าตัดคลอด ผ่าตัดมดลูกและปีกมดลูกประวัติความเจ็บป่วยในพ่อ-แม่-พี่น้อง-ครอบครัว ก็อาจมีผลต่อบุตรในครรภ์ได้ ควรสร้างจิตสำนึกให้ไปพบแพทย์เมื่อทราบวาสตั้งครรภ์  เพื่อให้แพทย์ค้นหาความเสี่ยง และความเจ็บป่วยในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

แนวคิดหลักภายใต้แคมเปญ ตอนที่ 3 ชีวิตลูกอยู่ในมือแม่ (พฤติกรรมของแม่)

จากการศึกษาข้อมูลงานวิจัย พบว่า หญิงเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดเป็นหญิงกลุ่มวัยทำงานที่มีหลากหลายอาชีพ ได้แก่ ค้าขาย เกษตรกรรม รับจ้าง เป็นต้น ในขณะที่อีกบทบาทหนึ่ง คือ แม่บ้าน ตั้งแต่ ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน หุ้งข้าว ทำกับข้าว ซักผ้าและรีดผ้า เป็นต้น การเปลี่ยนท่านั่งยองเป็นยืนบ่อยครั้ง หรือเดินขึ้นบันไดหลายครั้งต่อวัน หากมีบุตรที่ต้องดูแล หรือผู้ป่วยติดเตียง ก็มีความเหนื่อยล้ามากขึ้น หากเป็นหญิงทำงานการเดินทางมาทำงานไกลทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์หรือจักรยาน การยืนโหนราวบนรถเมล์หรือรถไฟฟ้าขณะเดินทางที่ต้องเกร็งตัวเมื่อรถเลี้ยว หรือวิ่งอยู่บนถนนที่ขรุขระ อาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อบุตรในครรภ์ได้ อันนี้ไม่นับรวมกับพฤติกรรมขณะทำงาน เช่น การกลั้นปัสสาวะ การนั่งทำงานนานๆ หรือ ความเครียดจากการทำงาน

คุณสุพาพร แสนศรี พบว่า หญิงตั้งครรภ์จะมีการเผชิญความเครียดหลายด้าน เช่น ด้านกายภาพ แสง เสียง ความร้อน ความเย็น ด้านเคมี ด้านชีวภาพ ด้านการเคลื่อนไหวและการยืน และด้านจิตวิทยาสังคม สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และยังทำให้มีอาการไม่สุขสบาย ได้แก่ เวียนหัว ปวดศีรษะ ปวดหลัง ขาบวม  อารมณ์หดหู่ เครียดหงุดหงิด เป็นต้น นำไปสู่การแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักน้อย

“หญิงตั้งครรภ์สามารถปฏิบัติงานและใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด โดยปรับเหมาะสมตามอาชีพ”

แนวคิดหลักภายใต้แคมเปญ ตอนที่ 4 สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด

alt

จากการศึกษาหญิงคลอดบุตรก่อนกำหนดในโครงการวิจัย พบว่า ประมาณ ร้อยละ 62 ของหญิงคลอดก่อนกำหนดให้ข้อมูลว่าไม่เคยมีความรู้เรื่องภาวะคลอดก่อนกำหนดมาก่อน และเมื่อมีอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด หรืออาการผิดปกติอื่นๆ มักเดินทางเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลล่าช้า ใช้เวลามากกว่าเมื่อมีอาการผิดปกติอื่น เช่น เลือดออก มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด เป็นต้น จนมีอาการเจ็บครรภ์รุนแรงมากขึ้นจึงเข้ามารับการรักษา เป็นเหตุให้แพทย์ไม่สามารถให้การยับยั้งต่อจนสามารถตั้งครรภ์ครบกำหนดคลอด มีน้อยมากที่บอกว่ากลัวทารกเป็นอันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด คณะผู้วิจัยจึงได้นำเสนอแนวคิดเรื่องการผลิตสื่อเพื่อป้องกันภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดสำหรับให้ประชาชน และหญิงตั้งครรภ์ได้รับทราบเพื่อนำไปใช้ป้องกันและดูแลครรภ์ตนเองต่อไป 

หากมีสัญญาณเตือน ดังต่อไปนี้ ต้องรีบไปพบหมอทันที!

ท้องแข็ง ท้องปั้น ปวดบั้นเอว เจ็บหน่วงท้องน้อย

มีน้ำไหล มีเลือดออก แม้ไม่เจ็บท้อง

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไปและฉีดซ้ำในทุกปี สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ได้ที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบรหารส่วนตำบลโรงหีบ ในวันและเวลาราชการ โปรดนำภาชนะเก็บความเย็นพร้อมน้ำแข็งเพื่อคงคุณภาพที่ดีของวัคซีน และนำบัตรประชาชน เจ้าของสัตว์เลี้ยงในการลงทะเบียนข้อมูลสัตว์

รายงานการตรวจสอบรายงานการเงิน องค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ

รายงานการตรวจสอบรายงานการเงิน องค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ ประจำปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567

ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ เรื่อง การขยายระยะการดำเนินการรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2568

ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ เรื่อง การขยายระยะการดำเนินการรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2568

Attachments:
Download this file (เอกสาร 11.pdf)เอกสาร 11.pdf[ ]313 Kb

บทความ อื่นๆ ...

หน้า 1 จาก 47

เริ่มแรก
ย้อนกลับ
1
Thai Arabic Chinese (Traditional) English French German Indonesian Japanese Korean Vietnamese
















เว็บไซต์ที่น่าสนใจ









พยากรณ์อากาศสมุทรสงครามวันนี้













 

คุณพึงพอใจอบต.โรงหีบ ด้านใด























QR Code
อบต.โรงหีบ

ลิขสิทธิ์ © 2560 องค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ จังหวัดสมุทรสงคราม สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด.
องค์การบริหารส่วนตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โทร 0-3470-2840